ไม่มีวันไหนที่ไม่รัก !
คุ้ยครอบครัวไฮโซ 'ตาล พิมพ์ชนก' กับสตอรี่เลิฟสุดอบอุ่น !
หนึ่งปีผ่านไป ไวราวกับโกหก เผลอแป๊บ ๆ ก็เวียนกลับมาวันครอบครัว 14 เมษายนอีกครั้ง วันที่หลายคนตั้งตาคอยที่จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา และทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกัน ทว่าปีนี้สำหรับใครไม่มีแพลนไปไหน ไทยรัฐออนไลน์ก็ได้เตรียมความพิเศษมาฝากกันเหมือนเคย กับเรื่องราวความรักความผูกพันธ์สุดอบอุ่นของครอบครัวเซเลบฯ สาวสวยคนเก่ง เจ้าของแบรนด์ชา No.57 และร้านตำทองหล่อ 'ตาล-พิมพ์ชนก (พลางกูร) สุภัทรพันธุ์' ซึ่งเราเชื่อแน่ว่า เมื่ออ่านจบคุณจะซาบซึ้งจนเข้าใจนิยามคำว่า 'รักคือ...ความห่วงใย' มากขึ้นเลยล่ะ !
|
|
'ตาล-พิมพ์ชนก (พลางกูร) สุภัทรพันธุ์' เซเลบฯ สาวสวยเจ้าของร้าน ตำทองหล่อ
|
|
|
'จริง ๆ แล้วสำหรับเราวันครอบครัวก็ไม่ต่างจากวันอื่น ๆ มากนะ เพราะทุกวันเราก็เต็มที่กับครอบครัวอยู่แล้ว ทั้งกับคุณพ่อคุณแม่ คุณย่า หรือแม้แต่ครอบครัวของเราเอง ปีนี้เราอาจจะสวนกระแสหน่อย คือไม่ออกไปไหน อยู่บ้านแทน เพราะว่าคนค่อนข้างเยอะ ก็จะหากิจกรรมอะไรทำกับลูก ๆ อยู่ที่บ้านซะมากกว่า แต่ใช่ว่าปีที่ผ่าน ๆ มาจะไม่เคยออกไปไหนเลย ก็มีไปบ้าง ส่วนมากจะชอบออกทริปไปต่างจังหวัดกันที่ภูเก็ต' ตาล-พิมพ์ชนก (พลางกูร) สุภัทรพันธุ์ นักธุรกิจสาวสวยเจ้าของแบรนด์ชา No.57 เริ่มต้นเอ่ยถึงวันครอบครัวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
|
|
พา 'น้องลูกพิมพ์' รดน้ำดำหัวคุณย่าวันสงกรานต์ |
|
|
นอกจากนี้ที่บ้านยังจัดประเพณีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และสรงน้ำพระที่บ้านขอพรวันปีใหม่ไทย (วันสงกรานต์) เป็นธรรมเนียมปฏิบัติทุกๆ ปี 'ใช่ อันนี้เป็นประเพณีที่ครอบครัวเราทำทุก ๆ ปีเลย เป็นเบสิคว่าต้องมีจัดขึ้น ครอบครัวเราไม่ได้มีเฉพาะคุณพ่อคุณแม่เท่านั้น ทว่ายังมีคุณย่าที่เราเคารพ เลี้ยงดูเรามาเปรียบเสมือนแม่คนที่ 2 แล้วใน Area พื้นที่เดียวกันยังมีครอบครัวญาติ ๆ อีก บ้านเราอยู่กันหลายคน ฉะนั้น หลัก ๆ ผู้ใหญ่ที่บ้านก็จะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ คุณย่า คุณป้า คุณน้า อย่างปีนี้ที่บ้านก็มีการเตรียมพวงมาลัย เตรียมน้ำสำหรับรดน้ำอะไรทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่ก็ต้องเช็กดูอีกทีหนึ่งว่าผู้ใหญ่ท่านไหนอยู่บ้าง หลัก ๆ คุณย่าจะอยู่บ้านทุกปีอยู่แล้ว เราก็พาลูก ๆ ครอบครัวของเราไปรดน้ำดำหัวท่าน เอาพวงมาลัยไปกราบขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล ส่วนสรงน้ำพระเราจะจัดขึ้นที่บ้าน ไม่ได้ไปสรงน้ำที่ไหนไกลเพราะว่าคนจะแน่นมาก มันก็จะเป็นอะไรที่เรียบง่าย'
|
|
เอาพวงมาลัยมากราบคุณพ่อครับ ! |
ตาลกับคุณย่าสุดเลิฟ |
|
|
ถามถึงการแสดงความรักของเธอกับคุณพ่อคุณแม่ เธอเอ่ยว่าอาจจะไม่ใช่คนแสดงความรักเก่งเท่าไหร่ พูดจาอะไรหวาน ๆ ไม่ค่อยเป็น ไม่ค่อยกอด ไม่ค่อยหอมแก้มเหมือนลูกคนอื่น ๆ ความรักของเธอจะเป็นแนวดูแล-ให้ความช่วยเหลือท่านจะมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นพาท่านไปโรงพยาบาลเวลาไม่สบาย หรือซื้ออาหาร ซื้อของมาฝากอยู่เรื่อย ๆ ที่สำคัญทุกวันจะต้องทำมาจากความตั้งใจจริง ๆ ไม่ได้ทำเพียงแค่หน้าที่ หรือเพราะวันนี้เป็นวันครอบครัวเท่านั้น เธอเน้นย้ำว่า ถ้าทำเต็มที่กับมันทุกวัน ดูแลพวกท่านทุกวันอย่างใจจริง คุณจะไม่รู้สึกหรือคิดเลยว่าวันครอบครัวจะต้องทำอะไรบ้าง
เมื่อเวลามีปัญหา หรือเจออุปสรรคต่าง ๆ ทุกคนสามารถให้คำปรึกษากับเธอได้หมดในเรื่องที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ คุณย่า คุณน้า หรือแม้แต่คุณอาเองก็ตาม 'แต่ละคนจะไม่เหมือนกันเลยนะ คุณพ่อกับคุณแม่จะมีความชอบ ความคิดคนละอย่างกันเลย เวลาปรึกษาก็อาจคุยกับคุณพ่อเรื่องหนึ่ง คุณแม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง หรือถ้าอยากได้คำแนะนำเรื่องนี้ก็อาจจะถามคุณย่า ทุกคนซัพพอร์ตเราหมดเลย เพราะเราโตมาในแบบได้รับอิทธิพลในครอบครัว ไม่ใช่แค่เฉพาะคุณพ่อคุณแม่ ฉะนั้นทุกคนก็สามารถที่จะให้คำปรึกษาได้หมด
ตั้งแต่เล็กจนโตคุณพ่อคุณแม่จะเน้นสอนเรื่องการใช้ชีวิตว่า ให้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ทำอะไรที่สบายๆ และไม่กดดันตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ให้มีความสุขกับสิ่งที่ทำ อย่าไปฝืนตัวเอง พวกท่านสองคนจะคอยสนับสนุน และหนุนหลังในทุกสิ่งที่เธอตั้งใจอยากจะทำจริง ๆ
|
เมื่อได้ผันตัวเองมาเป็นคุณแม่ลูกสองเต็มตัว |
|
กับบทบาทของ 'คุณแม่' ที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้ เธอเปิดใจเล่าว่า นอกจากมันจะยาก และต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นแล้ว มันยังทำให้ย้อนกลับไปคิดอะไรได้หลายอย่าง โดยเฉพาะคำสั่งสอน หรือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่คอยเตือนอะไรต่าง ๆ จากแต่ก่อนที่เธอไม่ค่อยเข้าใจ ดื้อบ้าง เอาแต่ใจบ้างเหมือนในละครไม่มีผิดเพี้ยน ทว่ามาวันนี้เธอเข้าใจพวกท่านมากขึ้นถึงความหวังดีเหล่านั้น เพราะมันก็เหมือนกับสิ่งที่เธอมอบให้กับลูก ๆ ของเธอเองเช่นกัน
'แต่ก่อนเราไม่เข้าใจว่าทำไมคุณพ่อคุณแม่ต้องพูดแบบนั้น คิดแบบนี้ รู้สึกไม่อยากจะคุยด้วยเลย เพราะคุยกันทีไรก็ไม่เข้าใจทุกที พอตอนนี้เราได้มาเป็นคุณแม่เองบ้าง มันทำให้เราเข้าใจมุมมองตรงนั้นมากขึ้น แล้วก็รู้สึกรักเขามากขึ้นนะ ความรัก ความห่วงใย ความหวังดีอะไรต่าง ๆ ที่เราได้ เราก็จะทำแบบนั้นให้ลูกเราเหมือนกัน'
|
|
ลูกชายตัวน้อยหล่อสุด ๆ |
ลูกสาวคนเล็กน่ารักใช่เล่น สวยเหมือนคุณแม่เลย |
|
|
สิ่งที่เธอประทับใจมากที่สุดในตัวคุณพ่อคุณแม่ รวมถึงคุณย่าที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก ๆ ก็คือ ความใจกว้าง การเปิดกว้างให้เธอมีอิสระทางความคิด และเคารพในสิทธิของเธอตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กมาก...ก สิ่งเหล่านั้นมันทำให้เธอได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างมากขึ้นด้วยตัวเอง และมีประสบการณ์โดยตรงกับการลองผิด-ลองถูกว่า สิ่งไหนมันเวิร์ค สิ่งไหนไม่เวิร์ค นี่เป็นวิธีการสอนอย่างหนึ่งของพวกท่าน ซึ่งมันไม่มีตำราเล่มไหน หรือใครที่จะมาสอนได้ดีไปกว่าการได้เจอสัมผัสประสบการณ์จริง ๆ
'ด้วยความที่ตอนเด็ก ๆ อย่างที่บอก เราเป็นคนดื้อมากมั้ง เวลาคุณพ่ออธิบายอะไร พอเราไม่เข้าใจ เราก็จะไม่ฟัง-ไม่ทำตาม ท่านก็เลยใช้วิธีให้เราลองก่อนเลย สมมติว่าเรารั้นที่จะทำแบบนี้ ซึ่งคุณพ่อรู้ว่ามันอาจจะไม่เวิร์ค 100% แต่ท่านก็จะให้เราลองดูเพื่อให้มีประสบการณ์ ให้เราเข้าใจมันด้วยตัวเอง แล้ววันหนึ่งเราจะคิดได้ด้วยตัวเองว่า แบบไหนมันเวิร์คจริง ๆ หรือสิ่งนี้โอเค สิ่งนี้ไม่โอเค เราจะเข้าใจกับสิ่งนั้นจริง ๆ ตอนเด็ก ๆ ที่บ้านค่อนข้างให้อิสระในการใช้ชีวิตมากนะ ปล่อยให้เราได้ลองเรียนรู้ทุกอย่างเลย แต่พวกท่านก็จะคอยดูอยู่ห่าง ๆ'
|
|
น่ารักน่าหยิกอะไรแบบนี้ |
น้องลูกพิมพ์ เบบี๋ตัวน้อย... |
|
|
คำสอนของคุณพ่อคุณแม่เธอจำมันได้ดีทั้งหมด อีกทั้งยังเอาไปปรับใช้ในการเลี้ยงลูกของเธอด้วย 'มีสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ที่คุณพ่อคุณแม่พร่ำบอกกับเราเสมอ ๆ นั่นก็คือ เลี้ยงลูกห้ามตามใจลูก ให้อิสระในการใช้ชีวิตก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องสปอยล์ลูกมากขนาดนั้น ไม่งั้นโตขึ้นไปเขาก็จะลำบาก และกลายเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ซึ่งมันไม่ดีต่อตัวเขาแน่ ๆ'
|
|
ทะเล้นไม่เบาเลย ! |
รักที่สุดแล้วคนนี้ ! |
|
|
สำหรับแพลนชีวิตลูก ๆ ในอนาคต ตอนนี้เธอยังไม่มีการวางแพลนอะไรให้ลูก ๆ มากนัก เพราะทั้งสองคนยังเล็กกันมาก 'ลูกชายคนโต ชื่อน้องเมกะ เพิ่งอายุ 3 ขวบเอง ส่วนคนเล็กเป็นผู้หญิง ชื่อลูกพิมพ์ เพิ่งจะ 1 ขวบครึ่ง ฉะนั้น ตอนนี้มันยังไม่ชัดเจนอะไร เรื่องแพลนการเรียนต่าง ๆ หรือจะให้เรียนความสามารถพิเศษด้านอะไร ก็คงต้องรอไปอีกสักพักก่อน อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เราเป็นแม่ก็ต้องเตรียมความพร้อมในทุกเรื่อง เลือกสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุดให้กับลูกอยู่แล้ว แต่ท้ายสุดก็ขึ้นอยู่กับลูก ๆ ว่าเขาจะทำได้ดีแค่ไหน ซึ่งถ้าเขาชอบอะไร เราก็พร้อมจะซัพพอร์ตเต็มที่ อย่างตอนนี้ลูก ๆ ชอบต่อรถไฟ เราก็จะเล่นกับเขา โตไปพร้อม ๆ เขา เราจะสนุกไปตามแต่ละสเต็ปของเขา ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป' ตาล-พิมพ์ชนก (พลางกูร) สุภัทรพันธุ์ เซเลบฯ สาวสวยคนเก่ง เจ้าของแบรนด์ชา No.57 กล่าวปิดท้ายด้วยน้ำเสียงปลื้มปริ่ม
|
น้องเมกะ-น้องลูกพิมพ์ |
|
|
|
สวีตกับสามีได้ทุกเวลาจริง ๆ |
หม่ามี๊ส่งน้องเมกะเข้านอน |
|
|
ติดตามความน่ารักของน้องเมกะ และน้องลูกพิมพ์ต่อได้ที่ IG : pimsno.1
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ไทยรัฐออนไลน์
|