รักที่แท้นั้น ... ย่อมสวยงามและไม่ฉาบฉวย
แต่ในชีวิตของมนุษย์คนหนึ่ง ทุกคนต่างต้องการใครบางคนมาร่วมแชร์แบ่งปัน เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เติมเต็มและส่งเสริมชีวิตของกันและกันด้วยทั้งนั้น สำหรับฉัน...แม้จะเคยผ่านอดีตที่ขมขื่นใจมาบ้าง เหมือนสัจธรรมว่าไว้ ยามใดที่ความมืดสิ้นไป ...ยามนั้นแสงสว่างย่อมกลับมา และเมื่อความรักผลิบานในใจเราอีกครั้ง มันก็ควรเป็นโอกาสที่เราจะมอบสิ่งดีๆให้คนพิเศษของเรา และดูแลประคับประคองความรักครั้งใหม่ให้ดีกว่าที่เคยเป็นมา แล้วฉันก็ได้แง่คิดบางอย่าง ในวันที่ต้องห่างไกลกันชั่วคราวกับคนพิเศษคนนั้นว่า การไกลกันของเราสองคน กลับมีข้อดีเหมือนกัน ตรงที่ทำให้เราทั้งคู่ได้มีช่วงเวลาถอยห่างเพื่อกลับออกมาดูใจตัวเอง เพราะบางทีการที่เรานำใจเข้าไปคลุกเคล้ากับสิ่งใดนาน ๆ จนไม่มีช่องว่าง มันก็อาจทำให้เราพลาดมองไม่เห็นบางด้านหรือรอบด้านน้อยลง เหมือนปลาที่ไม่เห็นน้ำ...นกที่มองไม่เห็นท้องฟ้า ถามว่า...เมื่อถอยออกมาแล้วได้มองเห็นอะไรบ้าง คำตอบคือ เมื่ออยู่กับตัวเอง ได้ใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ กับคนในครอบครัวของตัวเอง เราจะเห็นว่าที่สุดแล้ว ทุกสิ่งก็หมุนรอบไปตามวาระ ได้มีเวลาดูรูปถ่ายที่ถ่ายเก็บไว้ เห็นริ้วรอยของร่างกายที่กาลเวลาทำให้เปลี่ยนไป และยามที่เราสามารถอยู่กับใจตัวเองได้อย่างแท้จริง ก็จะเห็นพายุอารมณ์ความรู้สึก เห็นความสวิงขึ้นลงของจิตใจ เห็นความสุข เห็นความร้อนรน เห็นความกังวล เห็นความคิดถึง เห็นใจที่หลุดพ้นไปจากปัจจุบัน และบางช่วง...ก็หลุดหายไปจากความเป็นปกติ ยามสุขนั้น...อาจทำให้ใครหลายคนมองไม่เห็นคุณค่าหรือความสำคัญของการ “ตามรู้ได้ทัน” มากนัก แต่ฉันเชื่อว่าเมื่อใดที่ต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์แล้วล่ะก็ เราจะตระหนักถึงคุณค่าและความจำเป็นของมันทันที ถ้าครั้งใดที่ยามรักของเราสามารถโน้มนำธรรมะมาร่วมกล่อมเกลาจิตใจด้วยได้แล้ว นั่นแปลว่าเราจะสามารถรักได้อย่างมีสติ เพราะนั่นเป็นรักที่เกิดขึ้นจากจิตใจที่ตั้งมั่นไม่คลอนแคลน มีความเป็นธรรมชาติ ค่อยเป็นค่อยไป สวยงาม...แต่ไม่ฉาบฉวย ถึงที่สุดแล้ว- - มั่นใจได้เลยว่า ทุกสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไปย่อมหมายถึงสิ่งที่เราคิดดีแล้ว ...ตัดสินใจเลือกแล้ว... ว่าจะให้มันเกิดขึ้นจริง ๆ และคนพิเศษของเรา... เขาก็สมควรได้รับการปฏิบัติซึ่งมาจากความรักที่แท้เช่นนี้ไม่ใช่หรือ ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ปูปรุง |
Home >> |
รักที่แท้นั้น ...ย่อมสวยงามและไม่ฉาบฉวย |
|
|