เรื่องราวของพ่อ รักแท้ของในหลวงและพระราชินี ทรงตรัสกับช่างภาพ ไม่เคยทิ้งภาพถ่ายพระราชินีเลย ทรงหวงและอิจฉาบรรดาช่างภาพทั้งหลาย "เราไม่ค่อยชอบเวลาใครมาถ่ายภาพภรรยาของเรา เราจะรู้สึกหวงและอิจฉา (jealous) บรรดาช่างภาพทั้งหลายเพราะเราชอบถ่ายภาพพระราชินีด้วยตัวเราเอง เราไม่เคยทิ้งรูปถ่ายของเธอแม้แต่สักภาพเดียว แม้ว่าจะมีบางภาพที่เราไม่ค่อยชอบก็ตาม" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเปิดเผยกับ Mr Reginald Davis ช่างภาพจากประเทศอังกฤษ เมื่อครั้งยังทรงอยู่ในช่วงหนุ่มสาว หลายปีต่อมาเมื่อประเทศไทยถูกรุกรานจากระบบคอมมิวนิสต์ ในหลวงและสมเด็จพระนางเจ้าฯ ต้องทรงตรากตรำเสด็จไปเยี่ยมและปลอบขวัญชาวบ้านในที่อันตรายทั่วประเทศ "I don't think that I would like to be a King" Mr Davis ถึงกลับกราบทูลพระองค์เช่นนั้นเมื่อเห็นความเหน็ดเหนื่อยของทั้งสองพระองค์ "เราไม่ตำหนิท่านหรอก ...มันเป็นงานที่หนักมาก แต่งานจากการสงคราม (war work) จะทำให้คุณรู้ซึ้งว่า... ในเวลาสงบ คุณมัวใช้เวลาไปกับสิ่งไม่สำคัญเลย เหมือนที่ครั้งก่อนที่เจอกัน เราบอกท่านว่าเราอิจฉาช่างภาพคนอื่นเวลาถ่ายภาพภรรยาของเรา... แต่ตอนนี้ไม่มีความอิจฉาใด ๆ อีกแล้ว ไม่มีเวลาสำหรับเรื่องแบบนั้นแล้ว" เมื่อเวลาค่ำคืน ช่างภาพขออนุญาตถ่ายรูปพระองค์ขณะทรงอยู่หลังที่ขับเฮลิคอปเตอร์ พระองค์ทรงปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม "มันจะไม่ถูกต้องนะ" "เราไม่ได้ขับเฮลิคอปเตอร์เอง และภาพถ่ายก็ต้องบอกเล่าความจริง...." "...Mr Davis คุณรู้ไหม รูปครอบครัวของเราที่ท่านถ่ายไปควรต้องสะท้อนความจริง รูปภรรยาของเราที่ท่านถ่ายสำคัญกับประเทศไทยมาก เพราะรูปเหล่านั้นจะช่วยทำให้โลกใส่ใจกับประเทศไทย และเมื่อโลกใส่ใจประเทศไทย เขาก็จะใส่ใจประชาชนของเรา" จากหนังสือ The Royal Family of Thailand เนื้อหาจากเฟซบุ๊ค “Naknakk Wallop Prasopphol” ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก http://www.jobkhao.com/contents/19931/ |
Home >> |
เรื่องราวของพ่อ รักแท้ของในหลวงและพระราชินี |
|
|