พลังแห่งการสร้างสรรค์เกิดขึ้นมา เราตระหนักถึงการเป็นผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่ ความคิดเป็นสิ่งสร้างของเราและเราคือผู้สร้าง เมื่อเราไม่ได้ตระหนักรู้ถึงสิ่งนี้ เราจึงไม่ได้ใส่ต่อผลลัพธ์ของความคิดที่เราสร้างขึ้น ทั้งที่ความคิดก่อเกิดสายตาและทัศนคติ แสดงออกมาทางคำพูดและการกระทำเมื่อกระทำบ่อย ๆ ก็จะกลายเป็นนิสัยและปรากฏเป็นรอยกรรมในที่สุด คุณจะเห็นว่าเพียงแค่หนึ่งความคิดสามารถกำหนดชีวิตคุณได้อย่างไร คนเราจะมีชีวิตในแบบที่เราสร้างขึ้นมาทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นการอยู่ในสังคมสิ่งแวดล้อมแบบใด การพบปะ หรือมีสายใยสัมพันธ์กับผู้คนประเภทไหน หรือมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร นี่ล้วนเรียกว่ากฎแห่งการกระทำใช่หรือไม่ ดังนั้นถ้าเราเป็นผู้สร้าง เป็นนายของความคิด นั่นหมายถึงว่าเราย่อมมีสิทธิ์มีอำนาจเต็มที่ต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเอง และส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้อื่นด้วยเช่นกันใช่ไหม ผู้สร้างจะใส่ใจเสมอต่อสิ่งที่เขาสร้างขึ้น เขารู้ว่ามันเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องรับผิดชอบ คุณสามารถสร้างสรรค์คำพูดและการกระทำที่ปฏิสัมพันธ์อย่างอ่อนโยน ปรารถนาดี แต่เต็มไปด้วยพลังได้ สำนึกรู้เดียวที่ผู้สร้างควรใส่ใจก็คือ ฉันคือดวงวิญญาณ ฉันเป็นนายเหนือความคิดของตนเอง ฉันเป็นแสงแห่งคุณธรรมของความบริสุทธิ์ ด้วยการสร้างความคิดและเข้าไปสู่ความรู้สึกของการเป็นเช่นนี้ คุณจะมีประสบการณ์ถึงพลังบวกไหลรินอยู่ภายใน และเมื่อนั้นคุณก็สามารถสร้างสรรค์คำพูดและการกระทำที่ปฏิสัมพันธ์อย่างอ่อนโยน ปรารถนาดี แต่เต็มไปด้วยพลังได้ การคิดบวกต้องเริ่มจากตัวเราเองก่อน เราต้องเห็นและศรัทธาว่าตนเองเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดีงาม และเคารพผู้อื่นบนฐานของการเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดีงามและมีคุณค่า มีคุณธรรม เช่นเดียวกับเรา นี่เรียกว่าสายตาและทัศนคติของความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ สภาวะที่เป็นบวกจึงเกิดขึ้น เมื่อเราคงเคารพตนเองและเคารพผู้อื่นจากหัวใจ เราจะพัฒนานิสัยในการมองทุกคน ทุกสิ่ง อย่างเข้าใจตามความเป็นจริงโดยไม่มีอคติ เราจะยอมรับว่าทุกคนหรือทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฉันหรือคนรอบตัวฉัน มันดีอย่างที่มันควรจะเป็นแล้ว Cr.วารสาร Spiritual Yoga ฉบับที่ 15/2016 |
Home >> |
พลังแห่งการสร้างสรรค์เกิดขึ้นมา เราตระหนักถึงการเป็นผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่ |
|
|