ภูมิแพ้อากาศ ความอ่อนไหวที่ไม่ใช่แค่หวัด ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ชนิดที่ว่าใน 1 วัน ร่างกายต้องเจอกับอากาศที่ร้อน ฝนตก และเย็นจากแอร์ในห้อง ทำให้หลาย ๆ คนมีอาการที่เกี่ยวเนื่องกับทางเดินหายใจ และอาจคิดว่าเป็นหวัด แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจเป็นอาการของโรคอื่น เช่น ภูมิแพ้อากาศ มาดูกันว่าความจริงแล้ว ภูมิแพ้อากาศต่างกับหวัดอย่างไร
สำหรับการดูแลเมื่อเป็น “ภูมิแพ้อากาศ” ให้หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม ควันบุหรี่ ควันธูป ควันรถ รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและความชื้นเฉียบพลัน นอกจากนี้ควรทำความสะอาดบ้าน โดยเฉพาะห้องนอน การเปิดให้อากาศถ่ายเทเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงฝุ่นต่าง ๆ รวมถึงข้อปฏิบัติทั่วไปเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง เช่น การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การทานอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ เป็นต้น โดยผู้ป่วยภูมิแพ้อากาศ ควรเข้าพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาตามลักษณะอาการในแต่ละราย การซื้อยามาทานเองอาจเป็นอันตรายได้
หากเป็นไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการปวดเมื่อยมากกว่าเดิม รวมทั้งเบื่ออาหารด้วย โดยทั้งไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่ ต่างก็เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส การรักษาจึงมักเป็นการรักษาตามอาการ ให้ยาบรรเทาตามอาการ หากมีอาการไม่รุนแรงก็มักจะหายได้เอง สำหรับการดูแล เมื่อเป็นไข้หวัด ให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อมีไข้ ควรเช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำอุ่น หรือรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ กินยาบรรเทาตามอาการที่มี เช่น ยาแก้ไข้ ยาแก้หวัด ยาคัดจมูก ยาลดน้ำมูก หากมีไข้สูง หรือไข้ไม่ยอมลดหลังจากเช็ดตัวแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์ ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ระหว่าง ภูมิแพ้กับไข้หวัด ก็คือ “ภูมิแพ้อากาศ” จะไม่มีไข้ ไม่มีอาการปวดเมื่อย ไม่รู้สึกอ่อนเพลีย แต่จะมีอาการจาม คันคอ คันจมูก และจะมีอาการกำเริบทุกครั้งที่สัมผัสถูกสิ่งที่แพ้ ในขณะที่ไข้หวัด ส่วนใหญ่จะมีไข้ร่วมด้วย และมักมีอาการเมื่อร่างกายอ่อนแอ หรือในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จนร่างกายปรับตัวไม่ทัน
|
Home >> |
ภูมิแพ้อากาศ ความอ่อนไหวที่ไม่ใช่แค่หวัด |
|
|