อย่าหวังพึ่งลัทธิ! อยากสุขภาพแข็งแรง เริ่มได้ที่ตัวคุณเอง
ไม่ว่าใครล้วนอยากมีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรค อะไรที่ว่าดีที่ช่วยให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้ ก็ยอมทำ เช่นกรณีข่าวดังเมื่อไม่นานนี้ กับลัทธิหนึ่งที่มีการให้กินทาของเสีย โดยอ้างว่าสามารถรักษาสารพัดโรคได้ งานนี้นอกจากไม่หายยังอาจได้โรคเป็นของแถม อยากสุขภาพดีไม่จำเป็นต้องพึ่งลัทธิใดๆ คุณเองก็ทำได้ ไม่ยาก
ปัจจุบันวิทยาการและเทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เราจึงมีทางเลือกในการรักษาโรคหลากหลายช่องทาง ทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์ทางเลือก ดังนั้น จึงควรตัดสินใจอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพการรักษาเป็นสำคัญ เพื่อความปลอดภัยแนะนำให้เข้ารับการรักษาอาการเจ็บป่วยหรือปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในโรงพยาบาล เพราะการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันหรือแพทย์ทางเลือกที่มีมาตรฐานเป็นวิธีการรักษาโรคที่มีประสิทธิภาพมากกว่าทางเลือกอื่น
สำหรับวิธีรักษาโรคที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ดังนี้
1. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ มีความหลากหลาย ในปริมาณที่เหมาะสม เน้นผักและผลไม้เพื่อได้รับวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ โดยจิบทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวานจัด เค็มจัด ไขมันสูง เนื่องจากอาหารหวาน-มัน-เค็ม เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง รวมถึงลดหรือหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป เนื้อสัตว์ปรุงรส อาหารหมักดอง อาหารตากแห้ง เครื่องปรุงรส เพื่อป้องกันโรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหัวใจและหลอดเลือด
2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยออกกำลังกาย 3-5 วันต่อสัปดาห์ โดยใช้เวลาอย่างน้อย 20-30 นาทีต่อครั้ง จะทำให้ร่างกายสดชื่นแจ่มใส กระฉับกระเฉง มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น ลดความเครียด สร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง ช่วยให้มีสุขภาพดี
3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับมีความสำคัญกับสุขภาพของคนเรา เนื่องจาก 1 ใน 3 ของชีวิตคนเราในแต่ละวันเป็นเรื่องการพักผ่อนด้วยการนอนหลับ การพักผ่อนให้เพียงพอเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดี หากเรานอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอก็จะส่งผลกระทบทางสุขภาพและสังคม เช่น เสี่ยงโรคนอนไม่หลับ โรคอ้วน โรคเบาหวาน ประสิทธิภาพการทำงานหรือการเรียนลดลง ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ได้ เช่น หลับในขณะขับรถ
4. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ เนื่องจากเป็นที่ยอมรับกันในวงกว้างว่า ปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งที่ชัดเจนที่สุด คือ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ โดยโรคมะเร็งที่มีความเสี่ยงสูง เช่น มะเร็งช่องปาก มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด นอกจากนี้ยังเสี่ยงโรคอื่น ๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน
5. ตรวจสุขภาพประจำปี นอกจากนี้ควรหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติในร่างกาย หากพบความผิดปกติของร่างกาย ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษา รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ที่สำคัญ พยายามคิดบวก ทำใจให้แจ่มใสไม่เครียด หรือหาวิธีคลายความเครียด เช่น ทำกิจกรรมที่ชอบ ระบายความเครียดกับครอบครัวหรือคนรัก เมื่อไม่มีความเครียดก็จะส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจ