"ออกกำลังกาย เคล็ดลับสร้างภูมิคุ้มกันช่วงหน้าฝน"
ในช่วงหน้าฝนหรือช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ควรใส่ใจสุขภาพของตนเองเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคไข้หวัด เพราะหากป่วยและไม่มีการดูแลสุขภาพที่ดี อาจส่งผลให้เป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคปอดบวมในที่สุด หนึ่งในวิธีที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมีภูมิต้านทานพร้อมสู้โรค คือ การออกกำลังกาย
การเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่อง หรือการออกกำลังกาย ล้วนเป็นกิจกรรมทางกายที่ดีต่อสุขภาพร่างกายทั้งนั้น โดยคนทุกเพศทุกวัยควรมีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายยืดหยุ่น กล้ามเนื้อแข็งแรง มีระบบการทำงานของหัวใจและปอดที่สัมพันธ์กันอย่างดี ทำให้สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติแม้จะเข้าวัยสูงอายุแล้วก็ตาม
กิจกรรมทางกายกับความหนัก 3 ระดับ ดังนี้
1. ระดับเบา หมายถึง การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เป็นระดับการเคลื่อนไหวน้อยมาก เช่น การยืน การนั่ง การเดินระยะทางสั้น ๆ
2. ระดับปานกลาง หมายถึง การเคลื่อนไหวออกแรงที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ มีความหนักและเหนื่อยในระดับเดียวกับการเดินเร็ว ขี่จักรยาน การทำงานบ้าน มีระดับชีพจร 120-150 ครั้ง ระหว่างที่เล่นยังสามารถพูดเป็นประโยคได้ มีเหงื่อซึม ๆ
3. ระดับหนัก หมายถึง การเคลื่อนไหวร่างกายที่มีการทำซ้ำและต่อเนื่อง โดยใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น การวิ่ง การเดินขึ้นบันได การออกกำลัง มีระดับชีพจร 150 ครั้งขึ้นไป จนทำให้หอบเหนื่อย และพูดเป็นประโยคไม่ได้
ควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน อาทิ เดิน วิ่งเหยาะ ๆ ขี่จักรยาน หรือเล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง หรือทำงานบ้าน เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน ซึ่งการเริ่มต้นออกกำลังกายนั้น ควรเริ่มจากเบา ๆ ระยะเวลาน้อย ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายปรับตัว จากนั้นจึงค่อย ๆ เพิ่มความหนักขึ้น
การออกกำลังกายในแต่ละครั้ง ควรทำจนรู้สึกว่า หายใจเร็วขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้น มีเหงื่อออกซึม ๆ แต่ยังสามารถพูดคุยได้ ไม่ถึงกับหอบหรือหายใจไม่ทัน ไม่จำเป็นต้องหนักหรือเหนื่อยมาก ทำเป็นประจำสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที หรือสามารถออกกำลังกาย สะสมเป็นช่วง ช่วงละ 10 นาที เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูระบบไหลเวียนโลหิตและหายใจ รวมถึงระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้อย่างเต็มที่
ประโยชน์ของการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ได้แก่ เผาผลาญพลังงาน, เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก, ทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ มีความยืดหยุ่น, ระบบไหลเวียนเลือดและระบบหายใจทำงานดี, เคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เหนื่อยง่าย, ป้องกันการบาดเจ็บในชีวิตประจำวัน เช่น การล้ม, ลดความเสี่ยงจากโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน ฯลฯ, นอนหลับสนิท พักผ่อนเพียงพอ, ผ่อนคลาย ลดความเครียด ทำให้สุขภาพจิตดี นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่า การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม สามารถเสริมภูมิคุ้มกันป้องกันโรคได้
นอกจากนี้ อย่าลืมรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6 – 8 ชั่วโมง ละความเครียด เพื่อช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานและมีสุขภาพแข็งแรงในระยะยาว