เวียนศีรษะ VS เวียนศีรษะบ้านหมุน ต่างกันหรือไม่? อย่างไร?
อาการเวียนศีรษะ เป็นคำที่มีความหมายค่อนข้างกว้าง อาจหมายรวมถึงอาการมึนศีรษะ วิงเวียน งง รู้สึกโคลงเคลง ทรงตัวไม่ค่อยได้ มีความรู้สึกลอย ๆ หวิว ๆ มีอาการตื้อในศีรษะ ซึ่งในทางการแพทย์จะแบ่งอาการนี้ออกเป็น 2 ลักษณะ คือ เวียนศีรษะ กับ เวียนศีรษะบ้านหมุน
โดยทั่วไปการทรงตัวของมนุษย์จะเกิดจากการทำงานประสานกันของอวัยวะ 3 ส่วน คือ ตา ระบบประสาทรับความรู้สึก และประสาทหูชั้นใน โดยมีสมองเป็นศูนย์กลางการสั่งการและคอยควบคุมการทำงานต่าง ๆ ให้เกิดความสมดุล เช่น เมื่อเราเดินบนถนน ตาจะมองภาพต่าง ๆ เพื่อเก็บเป็นข้อมูลให้กับสมองว่าควรจะเคลื่อนที่อย่างไร ระบบประสาทรับความรู้สึกจะรู้ว่าขาได้เคลื่อนที่ออกไป และหูชั้นในจะคอยปรับสภาพการทรงตัวให้พอดีกับสภาพถนน ทุกอย่างทำงานอย่างสัมพันธ์กัน แต่หากความสมดุลที่รักษาไว้ไม่คงที่อีกต่อไป ก็จะทำให้เกิด “อาการเวียนศีรษะ” ขึ้น ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ 2 กลุ่ม
1. อาการเวียนศีรษะ (dizziness) มีความหมายรวมตั้งแต่อาการมึนศีรษะ งุนงง สมองตื้อ โคลงเคลง ไม่มั่นใจ หวิว ๆ โหวง ๆ ยืนเดินทรงตัวไม่ดี ไปจนถึงอาการวิงเวียนศีรษะ แต่จะไม่มีความรู้สึกว่าบ้านหมุน หรือสิ่งรอบตัวหมุน ซึ่งเป็นอาการไม่เฉพาะเจาะจง สามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย มักเกิดจากแรงดันเลือดและปริมาณเลือดที่ส่งไปหล่อเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ หรือมีสาเหตุมาจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคทางระบบไหลเวียนเลือด โรคทางระบบประสาท ภาวะโลหิตจาง เป็นต้น
2. อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน (vertigo) จะหมายถึงเฉพาะอาการเวียนศีรษะแบบรู้สึกหมุนหรือโคลงเคลงเท่านั้น ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุนหรือตนเองกำลังหมุนไป โดยที่ตัวเราอยู่นิ่ง คล้ายกับเมาเหล้า หรือรู้สึกโคลงเคลงทั้งที่อยู่กับที่หรือไม่มีการเคลื่อนไหว ทำให้เสียการทรงตัว เดินไม่สะดวก ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของอวัยวะรับการทรงตัวของหูชั้นในที่มีหน้าที่ควบคุมการทรงตัวและสมดุลต่างๆ ในร่างกาย เช่น โรคนิ่วในหูชั้นใน โรคแรงดันน้ำในหูชั้นในไม่เท่ากัน หรือมีการติดเชื้อลึกเข้าไปหูชั้นใน เป็นต้น
หากมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนอย่างรุนแรง มักมีอาการอื่นร่วมด้วย อาทิ คลื่นไส้ อาเจียน หูอื้อ มีเสียงในหู เหงื่อออก ฯลฯ ความน่ากลัวของอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน คือ เมื่อเวียนศีรษะบ้านหมุนจะเสียการทรงตัว ทำให้เสี่ยงต่อการล้มหรืออุบัติเหตุต่าง ๆ จึงควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กโดยเร็ว เนื่องจากอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนนี้มีสาเหตุจากหลายโรคที่ซับซ้อน การตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่การรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนซึ่งเกิดจากบางสาเหตุสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการรับประทานยา
มึนงง บ้านหมุน หายได้ ไม่ต้องใช้ยาขนานสูงด้วย เมอริสล่อน (Merislon) โดยตัวยา Betahistine mesylate ในเมอริสล่อนออกฤทธิ์ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในหูชั้นใน รวมถึงลดความดันภายในหูชั้นใน จึงช่วยบรรเทาอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน อาการหัวหมุน วิงเวียนศีรษะ หรือทรงตัวไม่อยู่ โดยมีการศึกษาพบว่าเมอริสล่อนให้ผลการรักษาได้จริงในคนไข้ ทั้งยังมีความปลอดภัยสูงและผลข้างเคียงต่ำ โดยผู้ใหญ่รับประทานยาเมอริสล่อน ครั้งละ 1-2 เม็ด วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร ทั้งนี้ ขนาดของยาควรปรับตามอายุ และความรุนแรงของอาการ
ทั้งนี้ อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนจากบางสาเหตุอาจอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น เนื้องอกในสมอง เส้นเลือดสมองตีบ เป็นต้น ดังนั้นหากมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนอย่างรุนแรง หรือเป็นซ้ำ ๆ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ