"ยา 3 ชนิดที่ต้องมีติดบ้าน ไว้สู้โรคหวัด"
แม้ “โรคหวัด” หรือ “ไข้หวัด” จะเป็นโรคที่มักระบาดในหน้าหนาวและหน้าฝน แต่ถ้าเราต้องเผชิญกับอากาศเปลี่ยนไปมา เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น หรืออยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่ดี ร่วมกับร่างกายที่อ่อนแอ แม้จะอยู่ในช่วงฤดูร้อนก็เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคหวัดได้เช่นกัน เพื่อเตรียมความพร้อมนี่คือ 3 ยาที่ต้องมีติดบ้านไว้สู้โรคหวัด
ไข้หวัดเป็นโรคติดเชื้อที่พบได้บ่อย เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซึ่งมีหลายสายพันธุ์ มักพบในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง สามารถติดต่อผ่านทางน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะ โดยการหายใจเอาเชื้อที่กระจายจากการไอ จาม หรือมือที่เปื้อนเชื้อโรคสัมผัสจมูกหรือตา สำหรับอาการของโรคหวัด ได้แก่ คัดจมูก จาม ไอ น้ำมูกไหลลักษณะใส มีเสหะ เจ็บคอ เสียงแหบ อาจมีไข้ต่ำ ๆ ปวดศีรษะเล็กน้อย ในคนบางคนอาจเป็นโรคนี้ได้ปีละหลาย ๆ ครั้ง ดังนั้น มียารักษาโรคหวัดติดบ้านไว้ก็ไม่เสียหาย
1. ยาแก้แพ้
เมื่อติดเชื้อหวัด ร่างกายจะตอบสนองต่อเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาด้วยการหลั่งสารฮีสตามีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ก่อให้เกิดอาการจาม น้ำมูกไหล ไอ คันตา หรือน้ำตาไหล เพื่อปกป้องและกำจัดเชื้อโรคให้ออกไปจากร่างกาย โดยยาแก้แพ้ หรือ ยาต้านฮีสตามีน เป็นยาช่วยยับยั้งการหลั่งสารเคมีที่ทำให้อาการต่าง ๆ ของไข้หวัดดีขึ้น ตัวอย่างยาแก้แพ้ เช่น ยาบรอมเฟนิรามีน หรือยาคลอเฟนิรามีน ซึ่งจะช่วยลดน้ำมูกในระบบทางเดินหายใจได้ดี แต่จะทำให้ง่วง ส่วนยาเซทิริซีน หรือยาลอราทาดีน จะไม่ทำให้ง่วงแต่มักไม่ลดน้ำมูกในไข้หวัดมากนัก ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรเลือกใช้ยาให้เหมาะสมตามอาการ
2. ยาลดไข้ บรรเทาปวด
ยาพาราเซตามอลและยาไอบูโพรเฟนเป็นตัวยายอดนิยมที่ช่วยลดไข้และบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ จากไข้หวัด ไม่ว่าจะเป็นปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ปวดหู หรือเจ็บคอ สำหรับยาไอบูโพรเฟน แม้จะสามารถลดไข้ บรรเทาปวดได้ดีกว่ายาพาราเซตามอลแต่ก็มีฤทธิ์ข้างเคียงที่มากกว่า ส่วนพาราเซตามอลเป็นยาที่ค่อนข้างปลอดภัย ไม่ระคายกระเพาะอาหาร แต่อาจมีผลข้างเคียงกับตับได้หากรับประทานเกินขนาดมากๆ ดังนั้น ผู้ป่วยควรใช้ยาในปริมาณและระยะเวลาที่กำหนดบนฉลากยา เพื่อป้องกันการใช้ยาเกินขนาดและการใช้ยาติดต่อกันเป็นเวลานาน รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง
3. ยาแก้ไอ
ยาแก้ไอแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ยารักษาอาการไอไม่มีเสมหะหรือไอแห้ง และยารักษาอาการไอมีเสมหะ ซึ่งผู้ป่วยต้องเลือกใช้ให้ถูกกับอาการของตัวเอง จึงจะหายได้เร็วขึ้น สำหรับผู้ที่ไอมีเสมหะแนะนำให้จัด เฟลมเม็กซ์-เอซี โอดี (Flemex-AC OD) ยาเม็ดฟู่ละลายเสมหะที่มาพร้อมสรรพคุณช่วยละลายเสมหะ แก้ไอ และแก้พิษพาราเซตามอล นอกจากใช้ดูแลตัวเองขณะป่วยด้วยโรคหวัดแล้วยังเหมาะสำหรับช่วงที่โควิดระบาดเช่นนี้ เนื่องจากยาเม็ดฟู่ละลายเสมหะประเภท NAC นี้มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน กำจัดสารพิษและสารอนุมูลอิสระ ทั้งยังช่วยลดสาเหตุปอดอักเสบ
รักษาอาการหวัดด้วยยาแล้ว อย่าลืมพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ดื่มน้ำอุ่นให้มากๆ ถ้าตัวร้อนให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำ คอยประคบระบายความร้อนออก และแยกนอนร่วมกับผู้อื่น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค